ความพิการไม่ใช่ปัญหา เพราะฉันจะพาหมา (พิการ) เที่ยว... เชียงคาน ภูเรือ เขาค้อ... หมาติดล้อพาเที่ยว
หมาน้อยไรเฟิลเองค๊าบ
https://www.facebook.com/riflelabrador

ทริปนี้ขอพาเที่ยวเชียงคาน ภูเรือ เขาค้อ จริงๆ แว๊บไปภูทับเบิกมาหน่อยนึงด้วย ทริปนี้เป็นทริปเส้นทางแห่งการตามหาทะเลหมอก
ออกจากบ้านประมาณตี 2 ของวันที่ 13 สิงหาคม 2558 เราขับรถไปทางภูหลวง วิวสองข้างทางสวยมากเลย

หมาน้อยบนภูหลวง แอบถ่ายรูปมานางกำลังนอนสบาย

วิวสองข้างทางก็สวย ต้องแวะจอดถ่ายรูปกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นทริปที่เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย
มาถึงเชียงคานประมาณ เกือบๆ เที่ยง แวะหาข้าวกินแถวๆ แก่งคุดคู้ แล้วก็เข้าไปเช็คอินที่พัก "อุ่นรักริมโขง"
เราพักที่อุ่นรักริมโขง (ที่พักจะออกมาทางแก่งคุดคู้ ไม่ได้พักบริเวณโฮมสเตย์ที่ถนนคนเดินเนื่องจากไรเฟิลตัวไม่น้อยเท่าไหร่เลยเกรงใจเจ้าของบ้านค่าา ซึ่งจริงๆ โฮมสเตย์แถวถนนคนเดินก็มีหลายแห่งที่ต้อนรับหมานะคะ) http://www.aunrakrimkhong.com

พนักงานต้อนรับของที่พักอุ่นรักริมโขงชื่อเฮงๆ ขี้อ้อนมากมาย
ตอนเย็นๆ ก็ออกมาเดินเล่นถนนคนเดินเชียงคาน พร้อมกับชมวิวริมแม่น้ำโขง
เช้าตรู่ตื่นมาตักบาตรข้าวเหนียว แล้วก็เตรียมตัวขึ้นภูทอก ที่หมายแรกในการตามหาทะเลหมอก
ภูทอกไม่ให้ขับรถขึ้นไปเองจึงต้องนั่งรถบริการ ค่ารถคนละ 25 บาท หมาน้อยขึ้นฟรีจ้าาาาา
ภูทอกวันนี้ไม่มีทะเลหมอกแบบที่เราหวัง มีแต่หมอกลงจัด ก็สวยไปอีกแบบเนอะ ไม่เป็นไรๆ ฝากความหวังไว้ที่ ภูเรือ และเขาค้อ
พึ่งเคยมาเชียงคานครั้งแรก จึงไม่รู้ว่าแต่ก่อนเชียงคานจะสวยงามกว่านี้หรือไม่ แต่ไปครั้งนี้ก็สัมผัสได้ว่าเชียงคานยังเป็นเมืองเล็กๆ ที่อบอุ่น ที่สำคัญมะพร้าวแก้วอร่อยมากกก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย
ไปต่อๆๆๆ เดินทางไปภูเรือกัน
ไปถึงภูเรืองเที่ยงๆ ไม่รู้จะทำอะไร เลยขับรถไปเที่ยวน้ำตกปลาบ่ากัน เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ช่วงนี้น้ำตกปลาบ่าน้ำแดงมาก น้ำไม่ใส แต่คิดว่าถ้าเป็นช่วงที่น้ำใสๆ คงสวยมากเลยทีเดียว
ชาวบ้านสัญจรกันไป-มา ข้ามถนนที่น้ำตกไหลมาท่วม
ไรเฟิลวิ่งเล่นน้ำตก ลื่นไม่เป็นท่าเล้ยยย
ทางไปน้ำตกปลาบ่ามีทุ่งนาสวยมากกกก แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
พ่ออุ้มแล้วขอแม่อุ้มบ้าง
ที่พักของเราคืนนี้คือ ระเบียงภู รีสอร์ท http://www.rabiangphuresort.com

โมงเช้าขับรถขึ้นภูเรือกัน แต่ขึ้นไปเจอหมอกหนามากและฝนตกด้วยเลยลงมาก่อน สายๆ ค่อยขึ้นไปใหม่ บัตรผ่านเข้าอุทยานซื้อครั้งเดียวสามารถใช้ผ่านเข้า-ออก ได้ทั้งวันค่ะ
10 โมงกว่าๆ ขึ้นไปใหม่อีกรอบ ฟ้าเปิดแล้วมีหมอกนิดๆ แต่ก็ยังไม่ได้เจอทะเลหมอกงามๆ เท่าไหร่ แต่ก็สวยงามแบบธรรมชาติ
ตรงที่จอดรถจะต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 1-2 กิโล จะถึงยอดภูเรือ (มีรถบริการ แต่เราเลือกเดินไปค่าาา สนุกดี)
ช่วงนี้มีดอกไม้สีม่วงบานสะพรั่งเต็มเลย สวยมาก (ไม่รู้ชื่อดอกอะไร)
ดอกไม้เยอะ สีเผื้อก็เยอะตามไปด้วย
ภูเรือวิวสวยมาก แม้จะไม่เจอทะเลหมอกแบบที่เราตั้งความหวังไว้ แต่ก็เอานะ ไม่เป็นไร ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
จริงๆ จากภูเรือแล้วตั้งใจจะไปเขาค้อแต่แรก แต่คิดไปคิดมา ใครๆ ก็บอกว่าถ้าตามหาทะเลหมอกให้ไปภูทับเบิก เราเลยเบนเข็มไปทับเบิกกัน
แวะถ่ายรูปวิวทับเบิกระหว่างทาง หมอกเรี่ยๆ ลอยๆ น่ารักจัง
จริงๆ เราเคยมาทับเบิกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วครั้งหนึ่ง กลับมาครานี้ทับเบิกเปลี่ยนไปจนเราแทบจำไม่ได้ ไม่รู้สินะแต่เมื่อเห็นแล้วเราตัดสินใจลงจากภูทับเบิกในเวลาเกือบๆ 5 โมงเย็นของวันนั้น
ภาพภูทับเบิกในวันที่เราไปเยือน
ขับรถไปเขาค้อ จุดหมายเดิมแต่เริ่มแรก คืนนั้นไปกางเต้นนอนกันที่ไปรษณีย์เขาค้อ ไปถึงก็มืดพอดี คืนนั้นเจอฝนด้วย โชคดีที่เต้นท์เอาอยู่
ตื่นเช้า ลุ้นๆ จะเจอทะเลหมอกมั้ย
ตอนเช้าราวๆ 6-7 โมง ยังเป็นหมอกลอยๆ อยู่ พอสัก 8 โมง เราก็ได้เห็นทะเลหมอกของวิวด้านหลังที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ โอ้โห สวยนะเนี่ย รูปถ่ายอาจจะไม่สวย แต่ธรรมชาติของจริงสวยจับใจเลยค่ะ
ก่อนกลับแวะเข้าไปชมความงามของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (ผลัดกันเดินชม เพราะกฎของวัดห้ามนำหมาน้อยเข้าไป จึงต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อนพี่ไรเฟิลข้างนอก แต่ยังพอได้เก็บภาพมาฝากค่ะ
จบทริป สนุก สุข อย่าบอกใคร เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้